อยู่สิงโปร์
… แล้ว โรเบิร์ต แลงดอน ก็ช่วยผมจากความเหงาเอาไว้ได้
ไม่ได้มาเขียนบันทึกหลายวัน
เหตุเนื่องจากมัวแต่อ่าน Angels & Demons เทวากับซาตาน
เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มว่าจะไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านเอง กะจะยืมชาวบ้านเค้าเอา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาคนให้ยืมไม่ได้ คนที่ซื้อมาแล้วอย่างไอ้น้อย ไอ้เจมส์ มันก็ยังอ่านกันไม่จบ – หรือกั๊ก ไม่ให้ผมยืมก็ไม่รู้ สุดท้ายก็เลยต้องไปซื้อมาอ่านเองจนได้
หรือจะเป็นเพราะว่าเล่มก่อนหน้านี้ที่ออกมาผมก็ซื้อไว้หมดแล้ว ( Davinci code, Digital Fortress). พวกมันก็เลยเรียกร้องเพื่อน ๆ ให้มาอยู่ด้วย
ซื้อมาเมื่อวันจันทร์ ด้วยความที่เวลาช่างน้อยนิดเลยไม่ค่อยมีเวลาอ่าน แต่ถึงกระนั้นก็อ่านไปได้ค่อนเล่มแล้ว
ตอนนี้เห็นมีเล่มใหม่ออกมาอีกแล้ว เริ่มเครียด อยากอ่าน แต่ไม่อยากเสียเงิน
ตอนนี้อยู่ที่สิงคโปร์ บินมาเรื่อง QBR meeting กับลูกค้าแมกซตอร์ ออกจากเชียงใหม่ แปดโมงครึ่ง มาถึงกรุงเทพเพื่อต่อเครื่องมาสิงคโปร์ต่อ (ด้วยนโยบายประหยัด ผมไม่เคยได้นั่งไฟลท์ตรงจากเชียงใหม่มาสิงคโปร์เลย)
คราวนี้กระเป๋าไม่หาย เพราะผมไม่ได้ได้เช็คอินไว้ใต้เครื่อง ถือมันขึ้นมาบนเครื่องเลย
วันนี้รู้สึกว่าอาหารการบินไทยอร่อย คงเพราะหิว และไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้า อาหารที่เคยไม่อร่อยก็กลับมาอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มาถึงสิงคโปร์ก็นั่งแท็กซี่จากสนามบินไปที่ออฟฟิศ ซิลเวียรออยู่ที่นั่นแล้ว พร้อมกับบอกว่าสุดท้ายแล้วก็จองโรงแรมให้ผมได้ เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ชื่อ Robertson Quay Hotel.
เครียดเหมือนกันเพราะเมื่อวาน คอมเฟิร์มไฟลท์ให้เจ๊แกช้าไปหน่อย แกเลยจองโรงแรมที่เคยพักประจำให้ไม่ทัน โทรถามที่ไหนก็เต็มหมดแล้ว ช่วงนี้ที่สิงคโปร์มีสัมนาเรื่อง Tax Free ก็เลยมีคนมาเยอะ ทำให้ทุกโรงแรมเต็ม ก็ไม่รู้ว่าสัมมนาเรื่องงนี้มันฟรีอย่างชื่อด้วยหรือเปล่า คน(ชอบของฟรี) เลยมากันเยอะ
ซิลเวียบอกว่าถ้ายังจองโรงแรมไม่ได้ก็จะให้ไปนอนบ้านเจ๊แกละ มีห้องว่างอยู่อีกห้อง
สุดท้ายก็มาได้โรงแรมนี้ โรงแรมทรงกระบอก ราคาคืนละ เก้าสิบเหรียญ ห้องเล็กมาก
เล็กขนาดที่ว่าเดินจากประตูห้องเข้ามาหนึ่งก้าว ก็ถึงประตูห้องน้ำ และอีกสองก้าวจากประตูห้องน้ำก็ถึงหน้าต่างห้องแล้ว โดยที่ระหว่างสองก้าวนั้น มีเตียงนอนคั่นอยู่
ในห้องมีโต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกเงาบานใหญ่ ซึ่งที่ๆ ควรจะเป็นลิ้นชักกลับดึงยืดออกมาได้เหมือนเอาไว้สำหรับวางคีย์บอร์ดในโต๊ะคอม ผมลองเอา laptop ไปวางไว้ ปรากฏว่าวางไม่ได้เพราะมันยื่นออกมาไม่พอ ก็เลยยังเป็นปริศนาว่ามันมีเอาไว้ทำอะไร ที่สำคัญยังมีสายแลน กับปลั๊กไฟเอาไว้ให้อีกต่างหาก
เปิดคอม อ่านเมล์ แปลกที่ผมพยายามต่อเข้า เว็บแอคเซสของเอาท์ลุคที่ออฟฟิศ(ที่สิงคโปร์) วันนี้ แต่ทำไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะว่าเซอร์ฟเวอร์ที่เมืองไทยไม่ดี แต่ปรากฏว่าพอมาเปิดที่โรงแรมกลับอ่านได้ฉลุย เน็ตเร็วซะด้วย
เข้าไปดูเว็บของโรงแรมนี้ รูปที่ถ่ายออกมาโชว์ในเว็บดูหลอกลวงมาก ห้องดูกว้างกว่าปกติ แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นมุมกล้อง
อ่านเมล์ไป ก็เปิดเว็บอะไรไปเรื่อยเปื่อยพร้อมกับเตรียมแพคเกจสำรองเอาไว้พรีเซนต์พรุ่งนี้อีกที เพิ่งรู้ว่า สตาร์วอร์ส ภาคล่าสุด กำลังจะเข้าวันพรุ่งนี้แล้ว น่าเสียดาย ถ้าอยู่เมืองไทยคงรีบไปดูแล้ว เป็นแฟนคนสำคัญของหนังเรื่องนี้ทีเดียว กำลังสงสัยว่าพอ จอร์จ ลูคัส ทำภาคนี้ (ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคแรก)ออกมาแล้ว จะไปทำอีกไตรภาคหลังต่ออีกหรือเปล่า เพราะป่านนี้ ลุค กับ เลอา สกายวอร์คเกอร์ก็คงหง่อมน่าดูแล้ว (ดูจากอายุของแฮริสัน ฟอร์ด ตอนนี้)
นอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง มองเพดาน ไม่เคยชินกับการนอนโรงแรมที่ห้องเล็ก ๆ (ทั้ง ๆ ที่บ้านตัวเองก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร) คงเป็นเพราะเคยชินกับการที่มีคนจองห้องใหญ่ ๆ (แบบที่มีเก้าอี้รับแขกในห้อง มีทีวีจอโต ๆ) ให้ละมัง
ความเคยชินเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย
เคยชินที่ก่อนนอนจะต้องโทรหาใครบางคนเพื่อบอกให้เธอนอนหลับฝันดี พอมาถึงวันหนึ่งที่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้อีก เลยกลายเป็นเรื่องลำบากที่ต้องหาอย่างอื่นมาทำ
บันทึกนี่ก็คงเป็นอีกทางเข้ามาช่วยผมให้หายคุ้นกับความเคยชินอันนั้น
ไม่ได้มาเขียนบันทึกหลายวัน
เหตุเนื่องจากมัวแต่อ่าน Angels & Demons เทวากับซาตาน
เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มว่าจะไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านเอง กะจะยืมชาวบ้านเค้าเอา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาคนให้ยืมไม่ได้ คนที่ซื้อมาแล้วอย่างไอ้น้อย ไอ้เจมส์ มันก็ยังอ่านกันไม่จบ – หรือกั๊ก ไม่ให้ผมยืมก็ไม่รู้ สุดท้ายก็เลยต้องไปซื้อมาอ่านเองจนได้
หรือจะเป็นเพราะว่าเล่มก่อนหน้านี้ที่ออกมาผมก็ซื้อไว้หมดแล้ว ( Davinci code, Digital Fortress). พวกมันก็เลยเรียกร้องเพื่อน ๆ ให้มาอยู่ด้วย
ซื้อมาเมื่อวันจันทร์ ด้วยความที่เวลาช่างน้อยนิดเลยไม่ค่อยมีเวลาอ่าน แต่ถึงกระนั้นก็อ่านไปได้ค่อนเล่มแล้ว
ตอนนี้เห็นมีเล่มใหม่ออกมาอีกแล้ว เริ่มเครียด อยากอ่าน แต่ไม่อยากเสียเงิน
ตอนนี้อยู่ที่สิงคโปร์ บินมาเรื่อง QBR meeting กับลูกค้าแมกซตอร์ ออกจากเชียงใหม่ แปดโมงครึ่ง มาถึงกรุงเทพเพื่อต่อเครื่องมาสิงคโปร์ต่อ (ด้วยนโยบายประหยัด ผมไม่เคยได้นั่งไฟลท์ตรงจากเชียงใหม่มาสิงคโปร์เลย)
คราวนี้กระเป๋าไม่หาย เพราะผมไม่ได้ได้เช็คอินไว้ใต้เครื่อง ถือมันขึ้นมาบนเครื่องเลย
วันนี้รู้สึกว่าอาหารการบินไทยอร่อย คงเพราะหิว และไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้า อาหารที่เคยไม่อร่อยก็กลับมาอร่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มาถึงสิงคโปร์ก็นั่งแท็กซี่จากสนามบินไปที่ออฟฟิศ ซิลเวียรออยู่ที่นั่นแล้ว พร้อมกับบอกว่าสุดท้ายแล้วก็จองโรงแรมให้ผมได้ เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ชื่อ Robertson Quay Hotel.
เครียดเหมือนกันเพราะเมื่อวาน คอมเฟิร์มไฟลท์ให้เจ๊แกช้าไปหน่อย แกเลยจองโรงแรมที่เคยพักประจำให้ไม่ทัน โทรถามที่ไหนก็เต็มหมดแล้ว ช่วงนี้ที่สิงคโปร์มีสัมนาเรื่อง Tax Free ก็เลยมีคนมาเยอะ ทำให้ทุกโรงแรมเต็ม ก็ไม่รู้ว่าสัมมนาเรื่องงนี้มันฟรีอย่างชื่อด้วยหรือเปล่า คน(ชอบของฟรี) เลยมากันเยอะ
ซิลเวียบอกว่าถ้ายังจองโรงแรมไม่ได้ก็จะให้ไปนอนบ้านเจ๊แกละ มีห้องว่างอยู่อีกห้อง
สุดท้ายก็มาได้โรงแรมนี้ โรงแรมทรงกระบอก ราคาคืนละ เก้าสิบเหรียญ ห้องเล็กมาก
เล็กขนาดที่ว่าเดินจากประตูห้องเข้ามาหนึ่งก้าว ก็ถึงประตูห้องน้ำ และอีกสองก้าวจากประตูห้องน้ำก็ถึงหน้าต่างห้องแล้ว โดยที่ระหว่างสองก้าวนั้น มีเตียงนอนคั่นอยู่
ในห้องมีโต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกเงาบานใหญ่ ซึ่งที่ๆ ควรจะเป็นลิ้นชักกลับดึงยืดออกมาได้เหมือนเอาไว้สำหรับวางคีย์บอร์ดในโต๊ะคอม ผมลองเอา laptop ไปวางไว้ ปรากฏว่าวางไม่ได้เพราะมันยื่นออกมาไม่พอ ก็เลยยังเป็นปริศนาว่ามันมีเอาไว้ทำอะไร ที่สำคัญยังมีสายแลน กับปลั๊กไฟเอาไว้ให้อีกต่างหาก
เปิดคอม อ่านเมล์ แปลกที่ผมพยายามต่อเข้า เว็บแอคเซสของเอาท์ลุคที่ออฟฟิศ(ที่สิงคโปร์) วันนี้ แต่ทำไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะว่าเซอร์ฟเวอร์ที่เมืองไทยไม่ดี แต่ปรากฏว่าพอมาเปิดที่โรงแรมกลับอ่านได้ฉลุย เน็ตเร็วซะด้วย
เข้าไปดูเว็บของโรงแรมนี้ รูปที่ถ่ายออกมาโชว์ในเว็บดูหลอกลวงมาก ห้องดูกว้างกว่าปกติ แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นมุมกล้อง
อ่านเมล์ไป ก็เปิดเว็บอะไรไปเรื่อยเปื่อยพร้อมกับเตรียมแพคเกจสำรองเอาไว้พรีเซนต์พรุ่งนี้อีกที เพิ่งรู้ว่า สตาร์วอร์ส ภาคล่าสุด กำลังจะเข้าวันพรุ่งนี้แล้ว น่าเสียดาย ถ้าอยู่เมืองไทยคงรีบไปดูแล้ว เป็นแฟนคนสำคัญของหนังเรื่องนี้ทีเดียว กำลังสงสัยว่าพอ จอร์จ ลูคัส ทำภาคนี้ (ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาคแรก)ออกมาแล้ว จะไปทำอีกไตรภาคหลังต่ออีกหรือเปล่า เพราะป่านนี้ ลุค กับ เลอา สกายวอร์คเกอร์ก็คงหง่อมน่าดูแล้ว (ดูจากอายุของแฮริสัน ฟอร์ด ตอนนี้)
นอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง มองเพดาน ไม่เคยชินกับการนอนโรงแรมที่ห้องเล็ก ๆ (ทั้ง ๆ ที่บ้านตัวเองก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร) คงเป็นเพราะเคยชินกับการที่มีคนจองห้องใหญ่ ๆ (แบบที่มีเก้าอี้รับแขกในห้อง มีทีวีจอโต ๆ) ให้ละมัง
ความเคยชินเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย
เคยชินที่ก่อนนอนจะต้องโทรหาใครบางคนเพื่อบอกให้เธอนอนหลับฝันดี พอมาถึงวันหนึ่งที่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้อีก เลยกลายเป็นเรื่องลำบากที่ต้องหาอย่างอื่นมาทำ
บันทึกนี่ก็คงเป็นอีกทางเข้ามาช่วยผมให้หายคุ้นกับความเคยชินอันนั้น
0 Comments:
Post a Comment
<< Home