ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ
อย่างที่ใครเคยบอกเอาไว้ ว่า “ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ”
เรื่องของเรื่องคือ กระเป๋าเดินทางผมหาย
บินไปต่างประเทศมาสองสามปี ปีละหลาย ๆ เที่ยว ในที่สุดก็ถึงคราวผมจนได้ กระเป๋าเดินทางหาย
ผมเช็คอินกระเป๋ารวดเดียวตั้งแต่สนามบินเชียงใหม่ เพราะต้องบินจากเชียงใหม่มาลงดอนเมืองแล้วต่อเครื่องมาฮ่องกงอีกที แล้วมารับเอากระเป๋ารวดเดียวไปเลย บินแบบนี้มาหลายเที่ยวแล้วก็ไม่เคยจะเกิดปัญหา
ก็ต้องกลับไปอ้างอิงประโยคข้างบนอีกครั้ง “ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ”
ไปทำเรื่องแจ้งกระเป๋าหายที่สนามบินฮ่องกงเอาไว้ เขามีเคาน์เตอร์เอาไว้รับแจ้งเรื่องนี้โดยเฉพาะ คาดว่าคงเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำ
หลังจากออกเอกสาร และขอพาสปอร์ต ผมไปกรอกอะไรสักครู่ เจ้าหน้าที่ก็ยื่นสลิปมาให้ผม มีเบอร์โทรกลับ และหมายเลขอ้างอิงเอาไว้ให้ บอกว่าถ้าเจอจะโทรไปบอกและจะจัดส่งกระเป๋าให้ตามที่อยู่
ผมให้เบอร์โทรของอัลฟ่า ( staff ของเราที่ฮ่องกง)กับเจ้าหน้าที่ไป กะว่าจะให้อัลฟ่าช่วยโทรตามหน่อย
เคยมีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ที่ฮ่องกงนี่แหละ (ตอนนั้นผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย)
ตอนนั้น มาร์ค แบรด แล้วก็ผม เดินทาทงจากเชียงใหม่มาฮ่องกงด้วยกัน (รู้สึกจะเป็นการมาเยี่ยมลูกค้าโปรเจคนึง) ตอนเช็คอินที่เชียงใหม่ มาร์คบอกว่าให้เช็คอินกระเป๋า พร้อมเขาไปได้เลย เพราะมาร์คมีบัตรทองรอยัล ออร์คิดพลัส สัมภาระจะถูกทรีตเป็น first priority ผมกับแบรดก็เอาด้วย ฝากกระเป๋าเช็คอินไปกับมาร์ค
พอมาถึงฮ่องกง ปรากฏว่ามีกระเป๋าของมาร์คคนเดียวที่หายไป
ตอนนั้นขำมาก หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งกับแบรด
พอมาเจอกับตัวเองแล้วมันไม่ขำเลย
คราวก่อน กว่ามาร์คจะได้กระเป๋าคืนก็สองสามทุ่มของวันนั้น แต่คราวนี้ผมไม่โชคดีอย่างนั้น
เพราะ flight ที่ผมนั่งมาจากดอนเมืองมันมาแวะที่ฮ่องกงเฉย ๆ จุดหมายจริง ๆ มันอยู่เกาหลี (กรุงโซล) ถ้าโชคดี กระเป๋าค้างอยู่ที่ดอนเมือง หรือ ฮ่องกง ก็ยังมีหวังได้คืนภายในวันนี้ ถ้าโชคร้าย กระเป๋าติดไปที่โซลด้วย ผมก็คงได้เน่าไปอีกหลายวัน
เราออกจากฮ่องกง แล้วข้ามมาจีน โดยหวังว่าจะได้กระเป๋าคืนมา
อัลฟ่าเพิ่งโทรไปถามที่สนามบินให้เมื่อสองทุ่ม ได้ความว่า ยังหากระเป๋าผมไม่เจอ
สรุปก็เลยต้องออกไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าไว้ก่อน ใครว่าเสื้อผ้าที่จีนถูก แค่เสื้อเชี๊ต กางเกงแสล็ค (แล้วก็อันเดอร์แวร์ ) นี่ก็กว่าสองร้อยหยวนแล้ว (ประมาณพันบาทหน่อย ๆ) ดีที่เฉลียวใจแลกเงินมาก่อน
ทำไงได้ ไม่มีทางเลือก ซีซี บอกว่าคราวก่อนสายการบิ นเคยทำกระเป๋าเดินทางเขาหาย แล้วเขาต้องไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ สามารถเอาใบเสร็จมาเรียกเงินคืนจากสายการบินได้ โทษฐานทำให้เขาเสียเงินโดยไม่จำเป็น ผมน่าจะทำอย่างนี้ได้บ้าง
เพียงแต่ตอนนั้นไม่ใช่สายการบินไทย และไม่ใช่สนามบินอ่องกง
แต่กระเป๋าหายครั้งนี้รู้สึกเฉย ๆ มาก ไม่ค่อยตื่นตกใจเท่าไหร่ อาจจะเพราะเคยเห็นกรณีของมาร์คมาก่อน หรือ จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าผมเพิ่งมีเรื่องใหญ่กว่านั้นที่เพิ่งเสียใจไป
เรื่องนี้มันเลยเล็กน้อย
เรื่องของเรื่องคือ กระเป๋าเดินทางผมหาย
บินไปต่างประเทศมาสองสามปี ปีละหลาย ๆ เที่ยว ในที่สุดก็ถึงคราวผมจนได้ กระเป๋าเดินทางหาย
ผมเช็คอินกระเป๋ารวดเดียวตั้งแต่สนามบินเชียงใหม่ เพราะต้องบินจากเชียงใหม่มาลงดอนเมืองแล้วต่อเครื่องมาฮ่องกงอีกที แล้วมารับเอากระเป๋ารวดเดียวไปเลย บินแบบนี้มาหลายเที่ยวแล้วก็ไม่เคยจะเกิดปัญหา
ก็ต้องกลับไปอ้างอิงประโยคข้างบนอีกครั้ง “ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ”
ไปทำเรื่องแจ้งกระเป๋าหายที่สนามบินฮ่องกงเอาไว้ เขามีเคาน์เตอร์เอาไว้รับแจ้งเรื่องนี้โดยเฉพาะ คาดว่าคงเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำ
หลังจากออกเอกสาร และขอพาสปอร์ต ผมไปกรอกอะไรสักครู่ เจ้าหน้าที่ก็ยื่นสลิปมาให้ผม มีเบอร์โทรกลับ และหมายเลขอ้างอิงเอาไว้ให้ บอกว่าถ้าเจอจะโทรไปบอกและจะจัดส่งกระเป๋าให้ตามที่อยู่
ผมให้เบอร์โทรของอัลฟ่า ( staff ของเราที่ฮ่องกง)กับเจ้าหน้าที่ไป กะว่าจะให้อัลฟ่าช่วยโทรตามหน่อย
เคยมีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ที่ฮ่องกงนี่แหละ (ตอนนั้นผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย)
ตอนนั้น มาร์ค แบรด แล้วก็ผม เดินทาทงจากเชียงใหม่มาฮ่องกงด้วยกัน (รู้สึกจะเป็นการมาเยี่ยมลูกค้าโปรเจคนึง) ตอนเช็คอินที่เชียงใหม่ มาร์คบอกว่าให้เช็คอินกระเป๋า พร้อมเขาไปได้เลย เพราะมาร์คมีบัตรทองรอยัล ออร์คิดพลัส สัมภาระจะถูกทรีตเป็น first priority ผมกับแบรดก็เอาด้วย ฝากกระเป๋าเช็คอินไปกับมาร์ค
พอมาถึงฮ่องกง ปรากฏว่ามีกระเป๋าของมาร์คคนเดียวที่หายไป
ตอนนั้นขำมาก หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งกับแบรด
พอมาเจอกับตัวเองแล้วมันไม่ขำเลย
คราวก่อน กว่ามาร์คจะได้กระเป๋าคืนก็สองสามทุ่มของวันนั้น แต่คราวนี้ผมไม่โชคดีอย่างนั้น
เพราะ flight ที่ผมนั่งมาจากดอนเมืองมันมาแวะที่ฮ่องกงเฉย ๆ จุดหมายจริง ๆ มันอยู่เกาหลี (กรุงโซล) ถ้าโชคดี กระเป๋าค้างอยู่ที่ดอนเมือง หรือ ฮ่องกง ก็ยังมีหวังได้คืนภายในวันนี้ ถ้าโชคร้าย กระเป๋าติดไปที่โซลด้วย ผมก็คงได้เน่าไปอีกหลายวัน
เราออกจากฮ่องกง แล้วข้ามมาจีน โดยหวังว่าจะได้กระเป๋าคืนมา
อัลฟ่าเพิ่งโทรไปถามที่สนามบินให้เมื่อสองทุ่ม ได้ความว่า ยังหากระเป๋าผมไม่เจอ
สรุปก็เลยต้องออกไปเดินหาซื้อเสื้อผ้าไว้ก่อน ใครว่าเสื้อผ้าที่จีนถูก แค่เสื้อเชี๊ต กางเกงแสล็ค (แล้วก็อันเดอร์แวร์ ) นี่ก็กว่าสองร้อยหยวนแล้ว (ประมาณพันบาทหน่อย ๆ) ดีที่เฉลียวใจแลกเงินมาก่อน
ทำไงได้ ไม่มีทางเลือก ซีซี บอกว่าคราวก่อนสายการบิ นเคยทำกระเป๋าเดินทางเขาหาย แล้วเขาต้องไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ สามารถเอาใบเสร็จมาเรียกเงินคืนจากสายการบินได้ โทษฐานทำให้เขาเสียเงินโดยไม่จำเป็น ผมน่าจะทำอย่างนี้ได้บ้าง
เพียงแต่ตอนนั้นไม่ใช่สายการบินไทย และไม่ใช่สนามบินอ่องกง
แต่กระเป๋าหายครั้งนี้รู้สึกเฉย ๆ มาก ไม่ค่อยตื่นตกใจเท่าไหร่ อาจจะเพราะเคยเห็นกรณีของมาร์คมาก่อน หรือ จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าผมเพิ่งมีเรื่องใหญ่กว่านั้นที่เพิ่งเสียใจไป
เรื่องนี้มันเลยเล็กน้อย
1 Comments:
At 11:19 PM, NungNing said…
เพื่อนของพี่สาวคนนึง ไปอเมริกา แล้วกระเป๋าหาย
ได้กลับมาหลังจากไปถึงเกือบอาทิตย์
เขาเลยเขียนจดหมายคร่ำครวญความลำบากเนื่องจากไม่มีกระเป๋า แล้วส่งไปให้สายการบิน
สิ่งที่ได้หลังจากนั้นคือสายการบินส่งตั๋วบินฟรีมาให้ จำไม่ได้ว่าบินฟรีจากไหนไปไหน
Post a Comment
<< Home