My Empty World

Tuesday, May 03, 2005

My Giant

วันก่อนดูหนังเรื่องหนึ่ง My Giant

เป็นหนังปี 1998 ที่หน้าปกก็ดูงั้น ๆ แต่คงเป็นเพราะผมชอบในตัวนักแสดงนำ Billy Crystal, (When Harry Met Sally, Analyst This, America’s Sweet Heart, Analyst That.. ) ก็เลยเลือกหยิบจากชั้นบนร้านเช่ามาดู

หนังมีธีมของเรื่องคล้ายกับ Jerry McGuire (ตามความคิดของผม) แซม(Billy) มีอาชีพเป็นเอเจนต์นักแสดง ที่กำลังตกอับ ลูกค้าคนสุดท้ายซึ่งเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังมีอนาคตก็ไล่เขาออกจากการเป็นเอเจนต์ เพราะคิดว่าพ่อของเขาทำได้ดีกว่า

สถานภาพสมรสก็กำลังย่ำแย่ เขาแยกกันอยู่กับภรรยาและลูก ซึ่งภรรยาของเขากำลังพาลูกชายย้ายกลับไปบ้านเกิดเพราะเธอได้งานสอนการแสดงที่นั่น ที่สำคัญคือเธอกำลังเริ่มไปสนิทสนมกับเพื่อนชายสมัยมัธยม (ซึ่งตอนนี้ทำงานเป็นครูสอนเลขของลูกชายเขา)

เรียกได้ว่าอยู่ในสถานะเดียวกันกับนาย Jerry ตกงาน แฟนทิ้ง เพียงแต่ว่าเขาไม่หล่อ และมีสาวแอบปลื้มแบบนาย Jerry

สิ่งที่แซมต้องการคือใครสักคน ที่จะมาเป็นลูกค้ารายใหม่ ที่จะทำให้เขามีกำลังต่อรองกับคนสำคัญในวงการ และก้าวกลับมาทวงความสำคัญคืนได้

สิ่งที่แซมรอ อยู่ไกลถึงโรมาเนีย

แมกซ์เป็นชายที่เป็นโรคมีการเจริญเติบโตทางร่ายกายผิดปกติ หรือที่เรียกว่าโรค Giant Syndrome (ถ้าผมจำไม่ผิด) เขาเริ่มมีการเจริญเติบโตของร่างกายผิดปกติตั้งแต่อายุสิบสี่ปี ผ่านมาจนอีกยี่สิบสองปีให้หลัง เขามีความสูงแปดฟุต

ด้วยรูปร่างอันน่ากลัว เขาถูกพ่อและแม่นำมาฝากไว้ที่โบสถ์ตั้งแต่อายุสิบห้า แล้วพ่อแม่ก็ไม่เคยกลับมารับเขาอีกเลย เวลาแมกซ์เดินออกไปตามถนนในหมู่บ้านเขามักจะถูกเด็ก ๆ เอาก้อนหินขว้างปา และเรียกเขาว่า ปีศาจจากนรก

แมกซ์ยอมรับกับสภาพนี้ เขาไม่เคยย่างกรายออกจากโบสถ์อีกเลยตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตาม เขาเกลียดที่คนพากันเรียกเขาว่าปีศาจจากนรก สำหรับเขาแล้ว เขาก็เป็นคนเหมือนกับคนทั่วไป มีความรัก ความรักที่มั่นคงต่อ ลิเลียอาน่า เด็กผู้หญิงที่เป็นความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของเขา ตอนอายุสิบสี่เขาและเธอจูบกันครั้งแรกที่น้ำพุหลังโบสถ์ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ลิเลียอาน่าก็ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา แต่แมกซ์ไม่เคยลืมเธอ

แมกซ์อาศัยอยู่ในโบสถ์ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต และเรี่ยวแรงอันมหาศาล เขาช่วยงานในโบสถ์ได้มาก และเมื่อเขาบังเอิญไปเจอรถของแซมที่พุ่งลงมาจากถนนจมลงไปในบ่อน้ำ แมกซ์ได้ใช้กำลังดึงทั้งรถ ทั้งแซมไปที่โบสถ์เพื่อรักษา

เมื่อแซมฟื้นขึ้นมาจากการสลบไสล เขาก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งทันที เขารู้ว่าเขาพบคนที่จะช่วยให้เขาทวงอำนาจ และความสำคัญกลับมาได้แล้ว แมกซ์คือคนที่แซมต้องการ ด้วยร่างกายอันใหญ่โตและท่าทางอันน่ากลัว เขามั่นใจว่าต้องมีผู้กำกับหลายคนต้องการแมกซ์ไปอยู่ในหนังของพวกเขาแน่นอน

แซมพยายามโน้มน้าวให้แมกซ์ออกจากโบสถ์แล้วไปอเมริกากับเขาเพื่อไปเป็นนักแสดง แต่แมกซ์ไม่รู้จักว่าภาพยนตร์คืออะไร เขารู้จักแต่เพียงกวีของเช็คเสปียร์ บุคคลที่เขาชื่นชม แมกซ์ยังได้แต่งกวีไว้สำหรับลีเลียอาน่าที่รักของเขาด้วย ตลอดเวลายี่สิบสองปีที่ผ่านมา แมกซ์เขียนจดหมายถึงเธอแทบทุกวัน แม้จะไม่เคยได้รับจดหมายตอบจากเธอเลยก็ตาม

เมื่อแซมบอกกับแมกซ์ว่าถ้าหากแมกซ์ยอมไปอเมริกา เขาสามารถพาแมกซ์ไปหา ลิเลียอาน่าได้ ด้วยความรักของแมกซ์ที่มีต่อลิเลียอาน่า สุดท้ายแมกซ์ก็ยอมออกจากโบสถ์และติดตามแซมไปอเมริกา

แน่นอนว่าก่อนที่แซมจะพาแมกซ์ไปหาลิเลียอาน่า เขาต้องหาทางให้แมกซ์เซ็นต์สัญญากับผู้กำกับดังๆ หรือได้เล่นในหนังดัง ๆ ทุนสร้างสูง ๆ สักเรื่อง แซมจึงต้องพาแมกซ์ตระเวนขึ้นเหนือล่องใต้ เพื่อพบกับผู้กำกับและผู้สร้างหนังเพื่อแนะนำแมกซ์

การเดินทางด้วยกันทำให้แซมได้เรียนรู้และเข้าใจถึงจิตใจอันบริสุทธิ์ของแมกซ์ แน่นอนว่ามันทำให้เขาต้องย้อนกลับไปคิดถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวของเขาด้วย แมกซ์เป็นความหวังเดียวที่จะทำให้เขามีหน้ากลับไปหาครอบครัวได้

สุดท้ายด้วยความตื๊อ และคารมของแซม แมกซ์ก็ได้เซ็นต์สัญญาในหนังของ สตีเว่น ซีกัล แต่เมื่อแซม พาแมกซ์ไปตรวจร่างกายเพื่อทำประกันภัยตามกฎของการเซ็นต์สัญญา เขากลับพบว่าแมกซ์กำลังจะตาย

ด้วยร่างกายที่ใหญ่เกินไป ทำให้หัวใจต้องทำงานหนัก แมกซ์(และอีกหลาย ๆ คนที่เป็นโรค Giant Syndrome) เป็นโรคหัวใจ และจะมีอายุไม่ยืนยาว
แมกซ์เองก็ดูเหมือนจะรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย เขาเขียนในประวัติของแพทย์ว่าเป็น โรคหัวใจป่วย (sick heart)

แซมถึงกับช็อคเมื่อรู้เรื่อง เขาถามแมกซ์ว่าในเมื่อตัวแมกซ์เองก็รู้อยู่แล้ว ว่ามีอาการป่วยและกำลังจะตาย ทำไมยังยอมออกจากโรมาเนีย และเดินทางระเหเร่ร่อนมากับเขาถึงอเมริกา การเดินทางมีแต่จะยิ่งทำให้อาการกำเริบ

คำตอบของแมกซ์สั้น ๆ….ลิเลียอาน่า

แซมไม่สนใจเรื่องสัญญา หรือ ค่าตัวของแมกซ์(ซึ่งจะกลายเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะได้รับ)อีกต่อไป เขาพาแมกซ์ออกเดินทางตามหาลิเลียอาน่าทันที

หนังมีหักมุมตอนจบเล็กน้อย

สุดท้าย แซมพาแมกซ์กลับไป โรมาเนีย กลับไปหาพ่อกับแม่ของแมกซ์ที่เคยทิ้งเขาไปยี่สิบกว่าปีมาแล้ว

(แมกซ์ไม่ได้ตายตอนหนังจบเรื่อง)

หนังเรื่องนี้ตอนต้นมีธีมคล้าย ๆ Jerry McGuire แต่พยายามจะเล่นกับความรู้สึกมากกว่า

ขณะที่ลูกค้าของ Jerry พยายามพร่ำบอกว่า “Show me the money” (ผมถือเป็นอมตะวลีเลยสำหรับคำนี้) แต่แมกซ์กลับไม่ได้เรียกร้องอะไร เขาขอแค่ได้เจอ ลิเลียอาน่า คนที่เขารักและคิดถึงมาตลอดเวลายี่สิบสองปีเท่านั้นเอง

----------------------------------------------------------------------

ผมไม่ได้เขียนถึงหนังเรื่องนี้เพราะว่ามันเป็นหนังที่ยอดเยี่ยม จริง ๆ ค่อนข้างธรรมดาและดูน่าเบื่อในบางช่วงด้วยซ้ำไป เพียงแต่มันทำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่างระหว่างผมกับเธอ

ไม่ได้เขียนถึงหนังเรื่องนี้เพื่อจะบอกว่าผมก็จะรอเธอไปอีกยี่สิบสองปี

แค่พยายามจะบอกว่า สำหรับบางคน การรอคอยเป็นสิ่งที่คุ้มค่า แม้ว่าวันนี้ผมยังไม่มีหวังกับการรอคอยก็ตาม

0 Comments:

Post a Comment

<< Home