My Empty World

Wednesday, April 27, 2005

อีกวัน ที่โลกยังว่างอยู่

วันนี้ก็ยังเป็นวันที่ซึม ๆ อีกวัน น้ำตายังคงแฉะในตอนเช้าหลังตื่นนอน

ไปทำงาน เพื่อน ๆ ที่ออนไลน์ MSN เริ่มเข้ามาทักทายว่าเป็นอย่างไรบ้าง หนิง แอน อุ๋ย ทยอยกันมาทัก ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนไม่มีเรื่องก็แทบจะไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำไป รู้สึกดีที่มีคนเข้ามาให้กำลังใจ ให้ความเห็น (ที่น่าเห็นด้วย และไม่น่าเห็นด้วยบ้าง) อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่ามีคนเข้าข้าง ในเวลาที่ตัวเองเหมือนไม่มีค่าอย่างนี้

งานวันนี้ยุ่งกว่าเมื่อวาน ไม่รู้ว่าเพราะ เมื่อวานลาหยุดไปครึ่งวันหรือเปล่า แต่ยังไงการที่มีงานยุ่งก็ดีกว่าอยู่ว่าง ๆ แล้วฟุ้งซ่าน

จ๋าชวนไปเที่ยวหนองคายกะพวกโป้ง และแฟนโป้ง (ว่าแต่มันจะไปเป็น กขค เค้าทำไม) ในวันหยุดติดต่อกันสามวันนี้ (เสาร์-อาทิตย์-จันทร์) บอกว่าอาจจะข้ามไปลาวด้วย จริง ๆ อยากไปด้วย การไปเที่ยวไกล ๆ คงเหมือนไปปลดปล่อยอารมณ์ และ (อาจจะ) เรียกเอาความมีชีวิตกลับคืนมา อีกอย่างผมก็ยังไม่เคยไปลาวมาก่อน แต่ก็นั่นแหละ มาชวนกันตอนกะทันหัน (วันพุธ) อย่างนี้ คงเตรียมการอะไรไม่ทัน แล้วก็เหตุผลสำคัญกว่านั้น วันเสาร์นี้ผมเริ่มเรียน MBA วันแรกพอดี เป็นคอร์สปรับพื้น เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจเบื้องต้น

อารมณ์นี้ชักไม่อยากเรียน เข้าซะแล้วสิ แต่เริ่มเดิมทีผมไปสมัครเรียนก็เพราะว่าเธอจะไปเรียนด้วย เราไปอ่านหนังสือด้วยกัน สอบด้วยกัน แต่ผมดันสอบติดคนเดียว เมื่อติดแล้ว ทางบ้าน(ของผม)ก็กดดันให้เรียนต่อไป(โดยจ่ายเงินค่าเทอมเองด้วย) เธอไม่เรียนด้วย นั่นหมายถึงเวลาที่เราจะได้พบกันในวันหยุดก็หมดไป แต่เธอบอกไม่เป็นไร เราก็มาเจอกันเพิ่มในวันธรรมดา แต่แล้ว สุดท้าย เหตุการณ์ก็มาลงเอย ที่เราต้องเลิกกัน(ด้วยความไม่เต็มใจของผม) ก่อนที่ผมจะเริ่มเรียนซะอีก

ไม่รู้ว่านี่คือสิ่งที่เค้าเรียกว่าชะตากรรมหรือเปล่า

แต่จนถึงตอนนี้ ลึก ๆ ในใจผมก็ยังไม่ยอมรับความจริง ผมยังคิดว่าเรายังมีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก ถ้าผมอดทนพอ ถ้าถามตอนนี้ก็คงตอบได้คำเดียวว่าจะรอ รอ และรอ เธอต่อไป นี่คงเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้วันนี้อาการผมสงบลงกว่าที่เคย

ไอ้ก่อมาชวนไปเที่ยววันอาทิตย์อีกแล้ว มันกะจะซื้อกล้องถ่ายรูปวันศุกร์นี้ แล้วเอาไปทดสอบ วันอาทิตย์ มันชวนไปไร่ชาป่าเมี่ยง ทางไปเชียงราย อยากไปด้วยอีกแล้ว แต่ก็ติดเรียนอีกเหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นไร ดูก่อน ถ้าวันเสาร์ไม่มีอะไรมาก ก็กะจะโดดเรียนวันอาทิตย์ไปเที่ยวกะมันเหมือนกัน

กลับบ้านมา แล้วก็เดินเอา วีซีดี ที่เช่ามาไปคืน เดินออกกำลังกายซะหน่อย ตอนแรกกะจะวิ่ง แต่มาคิดดูแล้ว วิ่งหอบวีซีดี (สามเรื่อง) ไป มันคงแปลก ๆ ก็เลยตัดสินใจเดินไปดีกว่า ได้เหงื่อพอเหนอะหนะเหมือนกันกว่าจะกลับมาถึงบ้าน

สี่ทุ่มกว่า ว่าจะพยายามไม่โทรไปแล้ว แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว โทรไปหาเธอจนได้ เราคุยทักทายกันเรื่องดินฟ้าอากาศทั่ว ๆ ไป ประมาณห้านาที ผมก็เอ่ยราตรีสวัสดิ์กับเธอ พยายามเป็นคนเอ่ยปากจบการสนทนาเอง มันทำให้รู้สึกดีกว่าเธอเป็นคนเอ่ยปากเอง คิดว่าวันนี้ทำได้ดีในการควบคุมความรู้สึกตัวเอง อย่างน้อยก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดกับผม

0 Comments:

Post a Comment

<< Home